Thursday, 28 September 2023

เจาะลึก! แบรนด์ไม้กลอง ชื่อดังและรุ่นที่น่าสนใจ

30 Mar 2020
1111

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับไม้กลอง

ไม้กลอง คือ อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับมือกลองทุกคน โดยไม้กลองแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของขนาดด้ามจับ น้ำหนักไม้ และหัวไม้ ซึ่งผู้ใข้งานจะต้องเลือกตามความถนัดและความเหมาะสมของแนวดนตรีที่เล่น

การแบ่งประเภทของไม้กลองโดยทั่วไปจะแบ่งโดยใช้ขนาดและน้ำหนักเป็นหลัก โดยขนาดของไม้กลองจะถูกกำหนดเป็นตัวเลข 2, 7 และ 5 ซึ่งเลขน้อยหมายความว่าเป็นไม้ขนาดใหญ่ ในขณะที่น้ำหนักจะถูกแบ่งตามตัวอักษร (ภาษาอังกฤษ) ดังต่อไปนี้

  •  S คือ ไม้กลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีน้ำหนักมากที่สุด โดยตัว S ย่อมาจากคำว่า Street เหมาะสำหรับใช้ในการเล่นกลองในวงโยธวาทิตเนื่องจากต้องใช้ความแรงในการตี
  • B คือ ไม้กลองขนาดมาตรฐาน โดยตัว B ย่อมาจาก Band หรือวงดนตรี ไม้กลองขนาดนี้จึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นกลองชุดในวงดนตรี และเป็นไม้ที่เหมาะกับผู้ที่เริ่มเล่นกลองชุดอีกด้วย
  • A คือ ไม้กลองที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเส้นรอบวงเล็กที่สุด และมีน้ำหนักเบาที่สุด เป็นที่นิยมในหมู่มือกลองแนวแจ๊ซ เนื่องจากความเล็ก กระทัดรัด เหมาะสำหรับการเล่นที่รวดเร็ว ว่องไว และเบา

นอกจากนี้ วัสดุต่างๆ ในการผลิตไม้กลองก็ทำให้ความทนทานและน้ำหนักของไม้กลองต่างกัน รวมถึงทำให้เกิดเสียงการตีที่ต่างกันอีกด้วย

อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกไม้กลอง คือ ลักษณะของ หัวไม้กลอง โดยหัวไม้กลองที่เรามักจะพบได้บ่อยที่สุดคือ รูปแบบ หยดน้ำ (teardrop) หรือ แบบกลม (Round) โดยวัสดุหลักที่เป็นส่วนหัวของไม้กลอง คือ ไม้ กับ ไนล่อน

แบรนด์ ไม้กลอง ชื่อดังและรุ่นที่น่าสนใจ

ในปัจจุบัน มีไม้กลองแบรนด์ต่างๆ มากมายให้บรรดามือกลองได้เลือกใช้ โดยแต่ละแบรนด์ ก็มีไม้กลองหลากหลายรุ่นซึ่งเหมาะกับการเล่นดนตรีแนวต่างๆในบทความนี้จะแบ่งแบรนด์ไม้กลองออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ แบรนด์ที่ผลิตแต่ไม้กลองเท่านั้น (เช่น Pro-Mark หรือ Vater) และ แบรนด์เครื่องดนตรีที่มีการผลิตไม้กลองจำหน่าย (เช่น Tama หรือ Zildjian) และยังมีแบรนด์ไม้กลองที่ใช้วัสดุพิเศษในการผลิตไม้กลอง ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เฉาะตัวที่แตกต่างกัน

 

แบรนด์ที่ผลิตแต่ไม้กลองเท่านั้น


1. ยี่ห้อ Pro-Mark

ไม้กลองชื่อดังแบรนด์นี้ถือกำเนิดขึ้นที่ฮูสตัน รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1957 โดยผู้ฝึกสอนเจ้าของร้านขายเพอร์คัสชั่น เฮิร์บ โบรชสไตน์ (Herb Brochstein) :ซึ่งเขายังเป็นผู้ฝึกสอนการเล่นเพอร์คัสชั่นอีกด้วย Pro-Mark มีชื่อเสียงในการผลิตไม้สำหรับใช้ตีกลองชุดและเครื่องเคาะต่างๆ และเป็นแบรนด์แรกที่เลือกใช้ไม้โอ๊คขาว Shira-Kashi ของประเทศญี่ปุ่นเป็นวัสดุผลิตไม้กลอง ในปี ค.ศ. 2011 Pro-Mark ได้รวมเข้ากับบริษัทผลิตสายเครื่องดนตรี D’addario

มีมือกลองระดับโลกมากมายที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Pro-Mark เช่น Neil Pert สุดยอดมือกลองผู้ล่วงลับ, Joey Jordison มือกลองระดับโลกอดีตสมากชิกวง 9 หน้ากาก Slipknot และ Mike Portnoy อดีตมือกลองวงโปรเกรสซีฟเมทัลชื่อดัง Dream Theater

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Pro-Mark

รุ่น Classic 5B Hickory Wood Tip

ไม้กลองมาตรฐานที่เหมาะสำหรับมือกลองแนวร็อค ป็อป หรือพังค์ ซึ่งต้องการความหนักหน่วงรุนแรงในการเล่น ด้วยขนาดที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 5A ซึ่งอาจจะเล็กและเบาเกินไป กับ 2B ที่หนักและใหญ่ ไม้กลองรุ่นนี้ผลิตจากไม้ Hickory ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน หัวไม้เป็นทรงหยดน้ำ

รุ่น Classic 7A Shira-kashi Oak Wood Tip

ไม้กลองรุ่นพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Pro-Mark คือ ไม้กลองที่ผลิตจากไม้โอ๊คขาวญี่ปุ่น Shira-Kashi ซึ่งเป็นไม้ที่มีความหนาแน่นและหนัก ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้เสียงฉาบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือกลองแนวแจ๊ซ นอกจากนี้ ไม้โอ๊คขาวญี่ปุ่นยังมีความแข็งแรงทำให้มีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่าไม้ Hickory หัวไม้รูปหยดน้ำทำให้ได้โทนเสียงที่อุ่นกว่า

รุ่น Mike Portnoy Signature Hickory Nylon Tip

ไม้กลองรุ่นซิกเนเจอร์ของสุดยอดมือกลองแนวโปรเกรสซีฟเมทัลระดับโลก Mike Portnoy ผลิตกจากไม้ Hickory ส่วนหัวเป็นไนล่อนรูปทรงหยดน้ำ ไม้กลองรุ่นนี้มีส่วนคอที่ยาวและแคบกว่าไม้กลองรุ่นมาตรฐาน ช่วยให้รู้สึกถึงการตอบสนองได้เป็นอย่างดี และทำให้เล่นด้วยความเร็วได้อย่างง่ายดาย หัวไม้ที่ทำจากไนล่อนทำให้ได้เสียงที่สว่างและชัดเจนกว่า

รุ่น Hot Rod

ไม้กลองก้านธูป (Rute) สำหรับกลองชุดรุ่นแรกที่มีมีการจดสิทธิบัตร เหมาะสำหรับการเล่นในสภาพแวดล้อมที่เสียงเงียบ ไม้กลองรุ่นนี้ผลิตจากเดือยไม้เบิช (Birch) ชั้นดี ทำให้ได้เสียงที่เบาบางกว่าไม้กลองธรรมดา แต่ยังคงมีความชัดเจนอยู่

 

2. ยี่ห้อ Vater

ไม้กลอง Vater ผลิตโดยบริษัท Vater Percussion จากรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตถุปกรณ์ต่างๆ สำหรับกลองชุดและเพอร์คัสชั่นโดยเฉพาะ และผลิตไม้กลองแประเภทต่างๆ มากมาย บริษัทก่อตั้งโดย แจ๊ค อดัมส์ (Jack Adams) โดยไม้คู่แรกผลิตโดย แจ๊ค อดัมส์, รอน เวเตอร์ (Ron Vater) และพ่อทูนหัวของ อลัน ชื่อ เฟร็ด มิเชลี่ (Fred Michaeli) ที่ร้านขายกลองของแจ๊คในบอสตัน

ในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 Vater เริ่มผลิตไม้กลองให้กับแบรนด์ Vic Firth และ Zildjian ก่อนที่จะย้ายโรงงานไปยังเมืองฮอลบรูค แมสซาชูเซตส์ในปี ค.ศ. 1988  และได้เปิดตัวไม้กลองของ Vater คู่แรกในอีก 3 ปีต่อมาที่งานแสดงขององค์กร Percussive Arts Society

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Vater

รุ่น Vater Manhattan 7A

ไม้กลองที่เหมาะสำหรับผู้ที่หัดตีกลองเป็นครั้งแรก ไม้กลองรุ่นนี้มีความยาวและความสมดุลที่พอเหมาะ ให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดล้นเป็นจุดแข็งที่เหมาะสำหรับมือกลองหน้าใหม่ที่ต้องเลือกไม้กลองคู่แรกเพื่อใช้งาน ไม้กลองขนาด 7A ไม่ใหญ่เกินไป และมีน้ำหนักเบาซึ่งช่วยให้คุณได้ฝึกฝนเทคนิคการตีกลองที่สำคัญๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมหัวไม้แบบกลมช่วยให้ได้เสียงฉาบที่สะอาดและชัดเจน

รุ่น Vater Los Angeles Hickory 5A  Wood Tip

เป็นไม้กลองที่มีสมดุลยอดเยี่ยม น้ำหนักที่ส่วนปลายไม้จะมากกว่าที่ส่วนด้ามจับเพื่อการตีที่หนักแน่น เหมาะกับการเล่นที่หนักแน่น รวดเร็ว ไม้กลองรุ่นนี้ผลิตจากไม้ Hickory ของสหรัฐอเมริกา โดย Vater จะเลือกใช้ไม้ที่มีความชุ่มชื้น โครงสร้างตรงและเห็นลายเนื้อไม้ เพื่อผลิตเป็นไม้กลองคุณภาพสูง

รุ่น Vater Sugar Maple 5ฺB 

ไม้กลองรุ่นนี้ผลิตจากไม้ Sugar Maple ซึ่งแม้จะมีความทนทานน้อยกว่าไม้ Hickory แต่มีน้ำหนักเบากว่าซึ่งง่ายต่อการควบคุม เส้นรอบวงของคอไม้ถูกทำให้แข็งแกร่งเพื่อเสริมพลังและความทนทาน หัวไม้มีลักษณะคล้ายลูกโอ๊คทำให้ได้เสียงที่กว้างและเต็ม ไม้กลอง Sugar Maple 5ฺB มีการตอบสนองที่ดีมาก และมักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของบรรดามือกลองมืออาชีพ

รุ่น Chad Smith’s Funk Blaster

ไม้กลองซิกเนเจอร์ของมือกลองชื่อดัง Chad Smith ของวง Red Hot Chili Peppers ไม้รุ่นนี้มีขนาดด้ามจับเท่ากับไท้กลองขนาด 5B แต่มีส่วนขอที่แข็งกว่า และส่วนปลายไม้จะมีน้ำหนักมากกว่าด้าม พร้อมด้วยหัวไม้แบบลูกโอ๊ค ตัวไม้ทำจากไม้ Hickory ซึ่งทำให้ได้เสียงที่หนักแน่น ไม้รุ่นนี้เหมาะกับการเล่นเพลงแนวร็อคและการเล่นเสียงเบลล์ที่ฉาบไรด์ (Ride)

 

3. ยี่ห้อ Vic Firth

Vic Firth คือ แบรนด์ไม้กลองที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1963 ที่เมืองวินเชสเตอร์ แมสซาชูเซตส์ โดย เอเวอเร็ต โจเซฟ “วิค” เฟิร์ธ (Everett Joseph “Vic” Firth) มือกลองชาวอเมริกันที่มีความคิดจะทำไม้กลองขึ้นเมื่อต้องเล่นเพลงที่จำเป็นต้องใช้ไม้กลองคุณภาพสูง

ในปี ค.ศ. 2010 บริษัท Vic Firth ถูกควบรวมเข้ากับบริษัท Avedis Zildjian ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตฉาบสำหรับกลองชุดและวงโยธวาทิต ในช่วงปี 2012 บริษัทมีผลิตภัณฑ์ประมาณ 300 ประเภทและสามารถผลิตไม้กลองได้ 12 ล้านชิ้นต่อปี

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Vic Firth

รุ่น NOVA 5A

ไม้กลองแบรนด์ NOVA เปรียบเสมือนไม้กลองรุ่นรองของ Vic Firth ซึ่งผลิตจากไม้ Hickory เกรด B ทำให้มีราคาถูก แต่สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ต่างจากไม้กลองราคาแพงรุ่นอื่นๆ ไม้กลองแต่ละคู่มีความสมดุลสูงและเหมาะแก่การใช้เป็นไม้กลองสำรองสำหรับมือกลองที่มักจะทำไม้กลองหักบ่อยๆ นอกจากนี้ ไม้กลองรุ่น NOVA ยังมีให้เลือกในขนาด 5B กับ 7A อีกด้วย

รุ่น American Custom SD2 Bolero

เป็นไม้กลองที่มีด้ามจับขนาดกลางและมีหัวไม้เล็ก ผลิตจากไม้ Maple สามารถนำมาใช้เล่นกลองชุดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นกับวงออเครสต้าและในหลุมวงดนตรีของโรงละคร อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้เป็นไม้สำหรับตีแป้นซ้อมกลองเพื่อพัฒนาทักษะ ไม้กลองรุ่นนี้มีช่วงคอที่สั้นทำให้เล่นเสียงที่ชัดเจนได้ง่ายขึ้น

รุ่น American Classic 5A

ไม้กลองคุณภาพสูงที่ผลิตจากไม้ Hickory ซึ่งถูกเลือกสรรมาเป็นอย่างดี ทำให้มีความทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม้กลองรุ่นนี้เหมาะสำหรับมือกลองที่เล่นเพลงแนวร็อคซึ่งต้องใช้แรงมากในการตี ตัวไม้มีความยาวที่เหมาะสมและมีส่วนคอไม้ขนาดกลาง ส่วนหัวไม้เป็นรูปหยดน้ำช่วยให้ได้เสียงที่พุ่งและอบอุ่น

รุ่น Signature Series Dave Weckl

มีมือกลองระดับโลกมากมายที่เลือกใช้ไม้กลอง Vic Firth หนึ่งในนั้นคือยอดมือกลองแนวฟิวชั่นแจ๊ซ Dave Weckl ซึ่งออกแบบไม้กลองซิกเนเจอร์ของเขาด้วยตนเอง ตัวไม้ผลิตจากไม้ Hickory และมีการลงสีน้ำตาลดูสวยงาม หัวไม้กลองเป็นลักษณะ Barrel ช่วยให้ได้เสียงฉาบที่กว้างและสว่าง ตัวไม้มีการตอบสนองและให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับดนตรีทุกแนว โดยเฉพาะแนวที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงในการเล่น

 

แบรนด์เครื่องดนตรีที่มีการผลิตไม้กลองจำหน่าย


1. ยี่ห้อ Zildjian

บริษัท Zildjian มีชื่อเต็มว่า Avedis Zildjian Company คือ บริษัทผลิตเครื่องดนตรีสัญชาติอาร์เมเนียน – อเมริกัน ผู้ก่อตั้งบริษัทมีชื่อว่า อเวดิส ซิลด์เจียน (Avedis Zildjian) โดยบริษัทนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบัน คือ อิสตันบูล ประเทศตุรกี) ในปี ค.ศ. 1623 ก่อนที่จะย้ายมายังเมืองนอร์เวลล์ รัฐแมสซาชูเซตส์จนถึงปัจจุบัน

แบรนด์ Zildjian มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องผลิตภัณฑ์ฉาบ ทั้งสำหรับใช้กับกลองชุดและในวงโยธวาทิต แต่ผลิตภัณฑ์ไม้กลองของ Zildjian ก็ถือเป็นตัวเลือกของมือกอลงชื่อดังหลายคน เช่น สุดยอดมือกลองแนวแจ๊ซ Dennis Chamber หรือ Travis Barker แห่งวงพังค์ระดับโลก Blink-182

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Zildjian

รุ่น 5B Nylon Black

ไม้กลองรุ่นนี้ผลิตจากไม้ Hickory โดยมีการลงสีดำตัดกับสัญลักษณ์ Zildjian สีทองทำให้ดูสวยงาม หัวไม้ของรุ่นนี้ผลิตจากไนล่อนทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะแตกหักระหว่างการเล่น และมีลักษณะเป็นรูปหยดน้ำ ตัวไม้มีขนาดกลางและได้น้ำหนักตามมาตรฐานของไม้กลอง 5B ช่วยให้ได้สมดุลการบังคับไม้ที่ยอดเยี่ยม

รุ่น 5A Acorn Tip Black Dip

ไม้กลองเคลือบสีรุ่นใหม่ของ Zildjian โดยมีให้เลือกทั้งขนาด 5A และ 5B โดยตัวไม้ผลิตจากไม้ Hickory และลงสีดำที่ด้ามจับซึ่งช่วยให้ไม้ไม่ลื่น ไม้กลองรุ่นนี้เหมาะกับดนตรีหลากหลายแนว ถือเป็นอีกหนึ่งไม้กลองสารพัดประโยชน์ และสามารถใช้เล่นติดต่อกันเป็นเวลานานได้ ไม้กลอง Acorn Tip Black Dip ขนาด 5A จะให้โทนเสียงเต็ม หนักแน่น และมีเสียงสะท้อนที่น่าทึ่ง

รุ่น Jazz Maple

ไม้กลองสำหรับมือกลองแนวแจ๊ซโดยเฉพาะ มีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการบังคับและการเล่นที่ต้องอาศัยทักษะชั้นสูง รวมถึงความรวดเร็ว ผลิตจากไม้ Maple ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าไม้ Hickory และให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่าเมื่อใช้เล่น อีกทั้ง ไม้ Maple จะทำให้ได้เสียงที่ขุ่น หัวไม้เป็นรูปทรงไข่เพื่อช่วยให้เสียงฉาบมีความชัดเจน โดยเฉพาะเวลาเล่นเสียงเบลล์บนฉาบไรด์ จึงเป็นไม้ที่เหมาะสำหรัลมือกลองแจ๊ซโดยเฉพาะ

รุ่น Travis Barker Artist Series

ไม้กลองรุ่นซิกเนอร์เจอร์ของ Travis Barker มือกลองจากวงพังค์ชื่อก้องโลก Blink-182 ผลิตจากไม้ Hickory และลงสีเพื่อเพิ่มความสวยงาม โดยมีให้เลือกทั้งสีขาว ดำ และเหลือง Travis Barker เป็นผู้ออกแบบไม้กลองรุ่นนี้ด้วยตัวเอง ตัวไมความสมดุลที่ยอดเยี่ยม และเล่นได้สารพัดประโยชน์ และเหมาะกับผู้ที่ชอบเล่นด้วยความหนักหน่วง

 

2. ยี่ห้อ Meinl

อีกหนึ่งแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตฉาบ Meinl คือ แบรนด์เครื่องดนตรีจากประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นในปี 1951 โดย โรแลนด์ ไมเนิล (Roland Meinl) โดนเริ่มจากการเป็นบริษัทผลิตเครื่องลม (Wind Instrument) และเริ่มการผลิตฉาบในปี 1952 Meinl ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน Big 4 ของบริษัทผลิตฉาบชื่อดังของโลกซึ่งประกอบไปด้วย Meinl, Zildjian, Sabian และ Paiste

แม้ Meinl จะมีสินค้าที่ขึ้นชื่อ คือ ฉาบรุ่นต่างๆ แต่พวกเขายังผลิตสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดคืออุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับกลองชุดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกะรเป๋าฉาบ (ทั้งแบบผ้าซอฟท์เคสหรือกล่องฮาร์ดเคส) แผ่นสำหรับกั้นกระเป๋าฉาบ กระเป๋าไม้กลอง กระบอกใส่ไม้กลองที่ติดกับขาฉาบ และไม้กลอง

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Meinl

รุ่น Hybrid 7A American Hickory

นี่คือไม้กลองที่ออกแบบมาสำหรับมือกลองที่เล่นในวงซึ่งมีแนวดนตรีหลากหลาย และเหมาะสมสำหรัลการเล่นในสถานการณ์ต่างๆ หนึ่งในไม้กลองสารพัดประโยชน์ ตัวไม้ผลิตจากไม้ Hickory แข็ง หัวไม้มีลักษณะพิเศษโดยเริ่มจากรูปลูกโอ๊คแล้วเปลี่ยนเป็นหัวแบบ Barrel ที่ส่วนปลาย ให้เสียงฉาบที่ลื่นไหล ไม้กลองรุ่นนี้มีส่วนคอที่ยาวเพื่อเสริมการตอบสนอง

รุ่น Heavy 5B American Hickory

ไม้กลองอีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตจากไม้ Hickory และมีหัวไม้เป็นรูปลูกโอ๊ค ถูกออกแบบมาสำหรับมือกลองที่ชอบใช้แรงมากในการตีเพื่อส่งผ่านพลังงานจากไม้ไปที่หนังกลอง โดยไม้กลองรุ่นนี้มีขนาด ความยาว และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากไม้กลองรุ่นมาตรฐาน และมีสมดุลที่แตกต่างออกไปซึ่งทำให้ไม้มีการเด้งสะท้อนที่มีลักษณะเฉพาะตัว และทำให้อาจควบคุมไม้ได้ลำบากหากริมช็อต (การตีโดนขอบกลอง) เป็นเวลานาน

รุ่น Big Apple Swing 5B American Hickory

ไม้กลองที่มีสมดุลที่ยอดเยี่ยมและให้เสียงที่นุ่มนวล ไม้กลองรุ่นนี้มีส่วนหัวเป็นรูปลูกโอ๊คที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ ทำให้ได้เสียงฉาบที่หวานใสและชัดเจน และเหมาะสำหรับแนวเพลงที่ไม่ต้องการให้เสียงฉาบหรือไรด์ดังเกินไป ไม้ Hickory ที่นำมาใช้ผลิตไม้กลองรุ่นนี้คือไม้ที่มีน้ำหนักเบา ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา นี่จึงเป็นไม้กลองอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับมือกลองแนวแจ๊ซ

รุ่น Standard Wire Brush

แปรงตีกลองรุ่นมาตรฐานของ Meinl ส่วนด้ามจับทำจากยาง วัสดุที่ใช้ทำขนแปรง คือ โลหะ โดยมีความอ่อนนุ่มปานกลางและค่อนข้างหนา แปรงตีกลองเหมาะสำหรับการเล่นในสถานการณ์หรือแนวเพลงที่ต้องการเสียงเบา เช่น เพลงแนวแจ๊ซหรือการเล่นกับวงอะคูสติก เมื่อเล่นเทคนิคการกวาดหรือเคาะจะให้เสียงที่ชัดเจน

 

3. ยี่ห้อ Tama

Tama คือ ชื่อของหนึ่งในแบรนด์กลองชุด เพอร์คัสชั่น และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลก ผลิตและจัดจำหน่างโดยบริษัทเครื่องดนตรีสัญชาติญี่ปุ่น โฮชิโนะ งักคิ (Hoshino Gakki) โดยมีสถานที่ทำการวิจัย พัฒนา และผลิตสินค้าต่างๆ อยู่ที่เมืองเซโตะ ประเทศญี่ปุ่น

บริษัทโฮชิโนะเริ่มผลิตกลองครั้งแรกในปี ค.ศ. 1965 โดยใช้ชื่อว่า Star Drum ในปี ค.ศ. 1974 บริษัทมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะผลิตกลอง รวมถึงอุปกรณ์เสริมคุณภาพสูงออกจำหน่าย และเริ่มผลิตกลองภายใต้ชื่อแบรนด์ Tama ปัจจุบัน บริษัทโฮชิโนะมีที่ทำการอยู่ทั่วโลกสำหรับจัดจำหน่ายสินค้าของพวกเขา และกลองของพวกเขาก็เป็นตัวเลือกของบรรดามือกลองระดับโลกมากมาย

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ Tama

รุ่น Oak Lab Fast Blast

Tama เป็นอีกแบรนด์ที่เลือกใช้ไม่โอ๊คเป็นวัสดุในการผลิตไม้กลอง โดยรุ่น Fast Blast ของซีรี่ย์ Oak Lab เหมาะสำหรับมือกลองที่ต้องการเสียงที่หนักแน่นพร้อมทั้งความรวดเร็วเนื่องจากตัวไม้ถูกออกแบบมาให้ผอม ส่วนหัวเป็นรูปทรงกลมที่มีขนาดใหญ่ช่วยให้ได้เสียงที่เต็มและกังวาล มีด้ามจับที่สบายมือและไม่ลื่น

รุ่น O216-B

ไม้กลองซีรี่ย์ไม้โอ๊คอีกหนึ่งรุ่น ไม้กลองรุ่นนนี้จัดอยู่ในกลุ่ม Original Series Oak Stick โดยที่ไม้กลองในซีรี่ย์นี้จะมีการแบ่งขนาดตามเกณฑ์เฉพาะของ Tama ซึ่งสามารถดูขนาดไม้ รูปทรงหัวไม้ และวัสดุได้จากหมายเลขสินค้า O216-B มีรูปทรงหัวไม้ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากเนื่องจากมันให้เสียงที่คงที่ ไม้กลองรุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งทั้งสำหรับมือกลองหน้าใหม่และบรรดามืออาชีพ

รุ่น 5BRZ

ไม้กลองจากซีรี่ย์ Red Zone เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตจากไม้โอ๊ค ความพิเศษของไม้กลองรุ่นนี้คือการลงสีแดงบนตัวไม้ ส่วนหัวของมันมีลักษณะเฉพาะตัวและทำจากไนล่อน ไม้กลองรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีความยาวมากกว่าปกติเล็กน้อยที่ 419 มม. ไม้กลอง Red Zone เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้แรงมากในการตี มีการใช้ Knocker ซึ่งทำให้ส่วนคอของไม้กลองรุ่นนี้สั้นเพื่อให้ได้เสียงที่หนักแน่นขึ้น

รุ่น Jeremy Colson H-JCS

ไม้กลองซิกเนอเจอร์แบรนด์ Tama รุ่นนี้เป็นของ Jeremy Colson มือกลองที่เล่นแบ๊คอัพให้ยอดมือกีต้าร์ระกับโลก Steve Vai ตัวไม้ทำจากไม้ Hickory หนา 16.5 มม. และยาว 422 มม. ความพิเศษของไม้กลองรุ่นนี้ คือ รูปทรงของไม้มือซ้ายกับมือขวาแตกต่างกัน โดยหัวไม้รูปลูกโอ๊คของมือขวาจะใหญ่กว่าเพื่อให้ได้โทนเสียงกลองกับฉาบที่กลมเต็ม ขณะที่มือซ้ายมีการใช้ Knocker เพื่อให้ได้เสียงที่หนักหน่วง

 

แบรนด์ไม้กลองที่ใช้วัสดุพิเศษในการผลิตไม้กลอง


1. ยี่ห้อ AHEAD

บริษัท AHEAD Product Inc. เริ่มต้นขึ้นจากการผลิตไม้กลอง 1 คู่ ไม้กลองของแบรนดืนี้พัฒนาโดย ริค กรอสแมน (Rick Grossman) มือกลองและวิศวกรของบริษัท Easton ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตลูกธนู ไม้เบสบอล และไม้ฮ็อคกี้ โดยใช้อะลูมิเนียมชนิดพิเศษของบริษัทเป็นวัสดุ เนื่องจากอะลูมิเนียมของ Easton มีความแข็งแรงเป็นพิเศษและน้ำหนักเบาจึงกลายเป็นตัวเลือกในการใช้ผลิตอุปกรณ์กีฬาต่างๆ แทนไม้

ในปี ค.ศ. 1992 บริษัท Easton ได้ติดต่อไปยัง บ็อบ คาชา (Bob Kasha) พ่อค้าในเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย เพื่อพัฒนาไม้กลองที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ และวางแผนจะทำให้มันเป็นที่นิยมในตลาดไม้กลอง จนในที่สุดก็ได้ก่อตั้ง Bing Bang Distribution เพื่อส่งไม้กลองของพวกเขาไปขายให้กับมือกลองทั่วโลก และในปี ค.ศ. 1997 คาชา ได้ของซื้อแบรนด์ AHEAD Drumsticks จากบริษัท Easton และไม้กลอง AHEAD ก็กลายเป็นที่นิยมทั่วโลก

ไม้กลองรุ่นที่แนะนำของ AHEAD

รุ่น Classic 2B

ไม้กลองที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด ด้วยกรรมวิธีการผลิตทางวิศกรรมรูปแบบใหม่ทำให้มันมีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับบรรดามือกลองที่ชอบใช้แรงเยอะในการตี ขนาดของไม้กลองรุ่นนี้เท่ากับรุ่น Classic 5B แต่มีน้ำหนักที่มากกว่าเล็กน้อย ไม้กลองรุ่นนี้ให้แรงสะท้อนที่มากกว่าไม้กลองที่ผลิตจากไม้ 5% และสามารถเปลี่ยนส่วนหัวไม้กับด้ามจับได้

รุ่น Crossroad 5A

ไม้กลองที่ผลิตจากอะลูมิเนียมชนิดพิเศษของบริษัทแต่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นของแบรนด์นี้ ด้วยรูปร่างที่ดูเหมือนผสมกันระหว่างไม้ที่ส่วนปลายกับอะลูมิเนียมที่ส่วนด้าม ไม้กลองรุ่นนี้มีน้ำหนักเบา และมีหัวไม้รูปลูกบอลขนาดเล็ก มันสามารถใช้ได้กับการเล่นดนตรีทุกแนวโดยเฉพาะแนวคันทรี ไม้กลองชนิดนี้มีอายุยืนยาวกว่าไม้กลองปกติ 6 ถึง 10 เท่า

รุ่น Crossroad Rock

อีกหนึ่งรุ่นของไม้กลอง AHEAD ในซีรี่ย์ Crossroad ที่มีลักษณะเหมือนไม้ที่ส่วนปลายและอะลูมิเนียมที่ส่วนด้าม ไม้กลองรุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งกับเพลงแนวร็อค มีความทนทานสูง มีส่วนคอไม้สั้น และออกแบบมาเพื่อให้ได้เสียงที่ดัง หนักแน่น แม้จะใช้แรงตีไม่มาก สามารถเปลี่ยนส่วนหัวไม้และด้ามได้

รุ่น Lars Ulrich “Scary Guy”

ไม้กลองซิกเนเจอร์ของ Lars Ulrich มือกลองจากวงแทรชเมทัลระดับโลก Metallica ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่เขาเป็นผู้ออกแบบอาร์ตเวิร์คที่พิมพ์อยู่บนตัวไม้ด้วยตนเอง คุณสมบัติโดยทั่วไปคล้ายกับไม้กลองรุ่น Classic 2ฺB ซึ่งจะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่น 5B เล็กน้อยและเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้แรงในการตีมาก หัวไม้กลองเป็นไนล่อนคุณภาพสูงที่ให้เสียงเหมือนไม้กลองที่ผลิตจากไม้

 

และทั้งหมดนี้ก็คือแบรนด์ไม้กลองที่น่าสนใจและไม้กลองรุ่นต่างๆ ที่อยากจะแนะนำให้ลองเลือกหามาใช้งาน จะเป็นได้ว่าไม้บางรุ่นมีคุณสมบัติที่เหมาะกับดนตรีแต่ละแนวโดยเฉพาะ แต่บางรุ่นสามารถใช้ได้กับหลากหลายแนวดนตรี การเลือกไม้กลองที่เหมาะกับตัวเราและแนวดนตรีของเราจึงเเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่มือลกองที่ดีต้องคำนึงถึงการเลือกไม้กลองที่เหมาะสมกับตัวเองและแนวดนตรีที่เล่น สามารถช่วยในการฝึกฝนและใช้งานทักษะต่างๆ ของตนได้เป็นอย่างดี จำไว้ว่า “จงมองหาอุปกรณ์ที่ใช่ เพื่อเล่นแนวดนตรีที่ชอบ”